วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555



ชนิดของระบบปฏิบัติการ จำแนกตามการใช้งาน สามารถจำแนกได้ 3 ชนิดด้วยกันคือ
1. ประเภทใช้งานเดี่ยว (Single-tasking)
        ระบบปฏิบัติการประเภทนี้จะกำหนดให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ครั้งละหนึ่งงานเท่านั้น ใช้ในเครื่องขนาดเล็ก อย่างไมโครคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบปฏิบัติการดอส เป็นต้น
2. ประเภทใช้หลายงาน (Multui-tasking)
        ระบบปฏิบัติการประเภทนี้สามารถควบคุมการทำงานพร้อมกันได้หลายงานในขณะเดียวกัน ผู้ใช้สามารถทำงานกับวอฟแวรืประยุกต์ได้หลายชนิดในเวลาเดียวกัน เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows 98 ขึ้นไป และUNIX เป็นต้น
 3. ประเภทใช้งานหลายคน (Multi-User)
        ในหน่วยงานบางแห่งอาจใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ทำหน้าประมวลผล ทำให้ในขณะใดขณะหนึ่งมีผู้ใช้งานพร้อมกันหลายคน แต่ละคนจะมีสถานีงานของตนเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ จึงต้องใช้ระบบปฏิบัติการที่มีความสามารถสูง เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถทำงานเสร็จในเวลา เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows NT และ UNIX
2.ตัวแปลภาษา
            การพัฒนาซอฟแวร์ต้องอาศัยซอฟแวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง
ภาษาซึ่งมีหลายภาษาสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เขียนโปรแกรมเขียนชุดคำสั่งด้ง่าย เข้าใจได้ และเพื่อให้สามารถปรับปรุงแก้ไขซอฟแวร์ในภายหลังได้
            ภาษาระดับสุงที่พัฒนาขึ้นทุกภาษาต้องมีตัวแปรภาษา
ซึ่งภาษาระดับสูงได้แก่ ภาษา Basic , Pascal และภาษาโลโก เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีภาษคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอีกมากได้แก่

    ซอฟแวร์ประยุกต์ (Application Sotware)
      ซอฟแวร์ที่ใช้ทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ทำงานเฉพาะด้าน เช่น การจัดพิมพ์รายงาน การนำเสนองาน การจัดทำบัชชี การตกแต่งภาพ การออกแบบเว็บไซต์ 
ประเภท ซอฟแวรืประยุกต์
         แบ่งตามลักษณะการผลิต สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท
1. ซอฟแวร์ที่พัมนาขึ้นองโดยเฉพาะ (Proprietary Software)
2.ซอฟแวร์ที่หาซื้อได้ทั่วไป (Packaged Software) มีทั้งโปรแกรมเฉพาะ (Customized Packaged)
และโปรแกรมมมาตรฐาน (Standard Packaged)  
      แบ่งตามกลุ่มการใช้งาน  จำแนกได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆดังนี้
1. กลุ่มการใช้งานด้านธุรกิจ (Business)
2. กลุ่มการใช้งานด้านกราฟฟิกและมัลติมีเดีย ( Graphic and Multimedia)
3. กลุ่มการใช้งานบนเว็บ (Web and Communicat ions)
 กลุ่มการใช้งานทางด้านธุรกิจ (Business)  
     ซอฟแวร์กลุ่มนี้ ถูกนำมาใช้โดยการมุ่งหวังใช้การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การจัดพิมพ์รางยงานเอกสาร นำเสนองานและการบันทึกนัดหมายต่างๆ เช่น
โปรแกรมประมวลคำ อาทิ Microsoft Word , Sun Staroffice Writer
โปรแกรม ตารางคำนวณ อาทิ Microsoft excel , Sun Staroffice Cals
โปรแกรมนำเสนองาน อาทิ Microsoft Power Point , Sun Staroffice Impress
กลุ่มการใช้งานด้านกราฟฟิกแลบะมัลติมีเดีย ( Graphic and Multimedia)
        ซอฟแวร์กลุ่มนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยจัดการด้านงานกราฟฟิกและมัลติมีเดีย เพื่อให้งานง่ายขึ้น เช่น ใช้ตกแต่ง วาดรูป ปรับเสียง ตัดย่อ ภาพเคลื่อนไหว และการสร้งการออกแบบเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น โปรแกรมงานออกแบบ อาทิ  Microsoft Vivio Professioinal
โปรแกรมตกแต่งภาพ อาทิ corelDRAW , Adobe Photoshop
โปรแกรมตัดต่อวีดีโอและเสียง อาทิ Adobe Premiere , Pinnacle Studio DV
โปรแกรมสร้างสื่อมัลติมีเดีย อาทิ Adobe Authorware , Toolbook Instructor , Adobe Director
โปรแกรมสร้างเว็บ อาทิ Adobe Flash , Adobe Dreamweaver
กลุ่มการใช้งานด้านเว็บไซต์ และการติดต่อสื่อสาร  (Web and Communicat ions)
          เมื่อเกิดการเติบโตของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตซอฟแวร์กลุ่มนี้ได้ถูกพัมนาเพื่อใช้งานเฉพาะมากขึ้น เช่นโปรแกรมการตรวจเช็คอีเมลล์ การท่องเว็บไซต์ การจัดการดูแลเว็บไซต์ และการส่งข้อความติดต่อสื่อการ การประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย ตัวอย่างโปรแกรมในกลุ่มนี้ ได้แก่
โปรแกรมจัดการอีเมลล์ อาทิ Microsoft Outlook , Mozzila Thunderbird
โปรแกรมท่องเว็บ  อาทิ Microsoft Internet Explorer , Mozzila Firefox
โปรแกรม ประชุมทางไกล (Vedio Conference) อาทิ Microsoft Netmeeting
โปรแกรมส่งข้อความด่วน ( Instant Messaging ) อาทิ MSN
โปรแกรมสนทนาบนอินเตอรืเน็ต อาทิ PIRCH , MIRCH
ความจำเป็นของการใช้วอฟแวร์
การใช้ภาษาเครื่องนี้ถึงแม้ว่าคอมพิวเตอร์จะเข้าใจได้ทันที แต่มนุษย์ผู้ใช้จะมีข้อยุ่งยากมากเพราะเข้าใจและจดจะได้ยาก จึงมีผู้สร้างภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่เป็นตัวอักษร เป็นประดยค ข้อความ ภาในลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่าภาษาคอมพิวเตอรืระดับสูง ภาษาระดับสูงมีอยุ่มากมายบางภาษามีความเหมาะสมกับการใช้สั่งงานการคำนวณทางคริตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ บางภาษา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น